นายยุทธนา เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน เข้ามายังเขตปลอดอากรในประเทศไทย และได้ทำการเปลี่ยนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบที่มาของสินค้าจากประเทศต้นทาง ซึ่งในกรณีนี้จะทำการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 7ม.ค.62 เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปราม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจสอบ ใบขนสินค้าเข้าเขตปลอดอากร เลขที่ A002-06201-04578, A002-06201-04562 จำนวน 8 ตู้คอนเทนเนอร์ สำแดงสินค้าเป็น ตะปู (STEEL NAILS) จำนวน 192 แพ็ค น้ำหนัก 180,877.54 กิโลกรัม ราคา 9,115,366.50 ประเทศกำเนิด CHINA ผลการตรวจพบ จำนวน ปริมาณ ชนิดสินค้า ตรงตามสำแดง แต่ตรวจพบสินค้า 5 ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 127 แพ็ค น้ำหนัก 119,009.74 กิโลกรัม มีข้อความระบุ “Made in Thailand” ต่อมาวันที่ 29 ม.ค. ยังได้ตรวจพบอีกจำนวน 4 ตู้คอนเทนเนอร์ สำแดงสินค้าเป็น ตะปู(STEEL NAILS) จำนวน 93 แพ็ค น้ำหนัก 87,900 กิโลกรัมราคา 3,466,167.73 บาท กำเนิด CHINA แต่ตรวจพบว่าที่บรรจุภัณฑ์ของสินค้ามีข้อความ ระบุ “Made in Thailand”
การจับกุมสินค้าทั้ง 2 ราย พบว่าบรรจุภัณฑ์ของสินค้าระบุ Made in Thailand ซึ่งอันที่จริงสินค้า ดังกล่าวเป็นสินค้าที่ผลิตจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเจตนาต้องการทำให้เชื่อว่าสินค้าดังกล่าวผลิตในประเทศไทย กรณีดังกล่าวเป็นความผิดฐานยื่น หรือยอมให้ผู้อื่นยื่นใบขนสินค้า เอกสารหรือข้อมูล ซึ่งเกี่ยวกับการเสียอากรหรือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติไม่ถูกต้องหรือไม่บริบูรณ์เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อจำกัด อันเป็นความผิดตามมาตรา 202 มาตรา 244 มาตรา 252 พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ. ห้ามนำของที่มีการแสดงเมืองกำเนิดเป็นเท็จเข้ามา พุทธศักราช 2481 เจ้าหน้าที่ศุลกากร จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดส่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เด่น ลำปาง นสพ ข่าวเด่น/ข่าวชลบุรี รายงาน
Blogger Comment
Facebook Comment